วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

อ่าน : ฮอบบิท


เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว (พูดซะนานเชียว จริงๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแหละครับ) มีโอกาสได้ไปดู “The Hobbit – The Desolation of Smaug” ชื่อไทยว่า “ดินแดนเปลี่ยวร้างของสม็อค” เป็นภาค 2 ในฉบับภาพยนต์ ผมเคยเขียนถึงตอนไปดูภาคแรกมา ที่ “The Hobbit ฉบับภาพยนต์ในความรู้สึกของผม”
ตอนนั้นรู้สึกแค่อยากกลับมาลองอ่านภาคหนังสือดูอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้อ่านซักกะทีจนความอยากหายไป แต่หลังจากมาดูภาค 2 แล้ว ความอยากกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้เรียกว่า “กลัดมัน” ถึงขั้นต้องจัดเอาไว้ให้เป็นหนึ่งใน TODO List ที่จะทำใน พ.ศ. 2557 ให้จงได้!!!
การกลับมาอ่านภาคหนังสือครั้งนี้ผมกลับได้พบความรู้สึกประหลาดบางอย่าง
เริ่มจากผมค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ เก็บรายละเอียดในตัวเรื่องไปเรื่อยๆ คอยสังเกตสิ่งที่โทลคีนค่อยๆ เผยออกมา ค่อยๆ ปะติดปะต่อเข้ากับเรื่อง “ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์” โดยนึกถึงภาคหนังไปด้วย (แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นจับผิดอะไร เพราะเข้าใจว่า หนังกับหนังสือ มันต้องทำให้สนุกกันคนละแบบอยู่แล้ว)
ผมพบว่าการดูหนังมามันช่วยเติมเต็มจินตนาการออกไปได้อย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นภาพเมืองทะเลสาป หรือ ภาพท้องพระโรงที่เต็มไปด้วยสมบัติ เรียกได้ว่ากลับมาอ่านฮอบบิทครั้งนี้เข้าขั้นอิ่มเอมเลยทีเดียว
นอกเหนือจากความอิ่มเอมในตัวเรื่องและจินตนาการแล้ว ผมยังพบว่า หนังสือในมือที่ผมอ่านอยู่มีอายุ 10 ปี แล้ว โดยเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 10 เมื่อปี พ.ศ. 2545 ผมรู้สึกทึ่งนิดๆ นี้เราเก็บหนังสือเล่มนี้มา 10 ปี เลย ความรู้สึกในการอ่านเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว กับวันนี้มันต่างกันได้อย่างน่าประหลาด
แถมแม้อายุหนังสือจะนาน แต่ฟังค์ชันการใช้งานยังมีครบ นั้นคือ “อ่านได้”
พอมานึกถึงสื่อทันสมัยอื่นๆ เช่น เทปVDO, CD, หรือ พวก ebook ต่างๆ สื่อพวกนี้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการดูหรืออ่าน หากวันใดสื่อเหล่านี้เสื่อมความนิยมลงไปตามระบบทุนนิยม อุปกรณ์ หรือ ซอฟแวร์ ในการเปิดสื่อเหล่านี้ก็จะหายไปด้วย แม้บางสิ่งอาจจะยังทรงคุณค้าไปตามกาลเวลาก็ตาม
ความรู้สึกแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของ “หนังสือเป็นเล่ม” ได้หรือไม่?
สุดท้าย… ผมแอบมีความคาดหวังต่อหนังภาคจบไว้นิดหน่อย ก็คือ อยากเห็นฉากการรบใน “สงครามห้าทัพ” และ ส่วนขยายในช่วงที่แกนดัล์ฟหายไปร่วมกับสภาขาวขับ เนโครมันเซอร์ (เซารอน) ออกจากที่มั่นทางใต้ของป่าเมิร์กวู้ด

สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น