** บทความนี้น่าจะใช้ได้ทั้ง Raspbian และ RetroPie
เตรียมตัว
- Raspberry Pi 3 ที่ลง Raspbian หรือ RetroPie แล้ว
- จัดการเสียบ USB Audio (บ้านเราเรียก USB Sound Card) เข้ากับ Raspberry Pi ซะ ผมซื้อมาจากในเน็ตราคา 90 บาท ยังไม่รวมส่ง หน้าตาประมาณนี้ (ภาพประกอบจาก Internet)
- จริงๆ จะใช้รุ่นอื่นก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร (แบบว่าอันนี้มันถูกสุดแล้วไงเลยจิ้มเอามาลอง)
- ข้อดี คือมันกินไฟน้อย ราคาถูกมาก และเห็น review บน youtube ไปในแนวทางที่ดี
- ข้อเสีย ของรุ่นนี้คือ มันใหญ่เทอะทะ พอเสียบเข้าช่อง USB ด้านหลัง Raspberry Pi แล้วจะไปขวางช่อง USB อันอื่นๆ หมด โชคดีที่บ้านมีสายพ่วงมาต่ออีกที เลยรอดไม่ต้องออกเงินเพิ่ม - -"
- เสียบๆ นู้นนี้นั้นครบแล้วก็ Boot Raspberry Pi ขึ้นมาเลย จากนั้นจะทำหน้าเครื่องหรือ ssh ก็แล้วแต่เลย
Setup
- ลองตรวจสอบว่า Raspberry Pi ของเรามองเห็น USB Audio ที่เราเสียบเข้าไปแล้วหรือยังด้วย
- $ lsusb
- หลังจากนั้นก็เช็คให้แน่ใจว่า USB Audio เราได้รับการ detected จาก os แล้ว
- $ cat /proc/asound/modules
- หน้าตา output น่าจะออกมาประมาณนี้
- 0 snd_bcm2835
1 snd_usb_audio - เจ้า snd_bcm2835 ก็คือ built-in sound card นั้นเอง
- ต่อมาจัดการบอก OS ให้มาใช้งาน snd_usb_audio โดยการสร้าง config file ดังนี้
- $ sudo vim /etc/modprobe.d/alsa-base.conf
จากนั้นก็ใส่ code พวกนี้ลงไป
options snd_usb_audio index=0
options snd_bcm2835 index=1
options snd slots=snd-usb-audio,snd-bcm2835 - เสร็จแล้วก็ Save และ reboot Raspberry Pi ซะก่อน
- หลังจาก Reboot เสร็จแล้วลองตรวจสอบดูว่าตอนนี้ OS ใช้ Device ตัวไหนอยู่
- $ cat /proc/asound/modules
- หน้าตา output จะต้องออกมาประมาณนี้
- 0 snd_usb_audio
1 snd_bcm2835 - จากนั้นก็ลองทดสอบดู
- เปิด youtube เสียงต้องออกและคุณภาพเสียงต้องดีกว่าเดิม
- สำหรับ omxplayer ต้อง redirect output ไปที่ alsa
- $ omxplayer -o alsa video.mp4
จบ. :D
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น